เปิดตัวแล้ว Surface Go แท็บเล็ตวินโดวส์รุ่นประหยัดจาก Microsoft ราคาเริ่มต้นเพียงหมื่นสาม

หลังจากที่ถูกลือมานานเกี่ยวกับแท็บเล็ต Surface รุ่นประหยัดของ Microsoft ในที่สุดแท็บเล็ตรุ่นดังกล่าวก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วนะโดยใช้ชื่อว่า Surface Go เป็นแท็บเล็ตราคาประหยัด ที่สามารถทำงานได้เหมือนกับโน๊ตบุ๊คและจะเริ่มวางจำหน่ายผ่านร้านค้าออนไลน์ของ Microsoft ก่อน ในวันที่ 2 สิงหาคมส่วนในประเทศไทยก็คงต้องรอไปอีกสักระยะ

ที่มา:ข่าว

Light เตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่มีกล้องถึง 9 ตัว สำหรับคนรักการถ่าย

Light คือบริษัทที่เคยเปิดตัว L16 กล้องสุดเจ๋งที่มาพร้อมเลนส์ 16 ระยะในตัวเดียว ล่าสุดได้มีรายงานข่าวออกมาว่าทางบริษัท Light กำลังพัฒนาสมาร์ทโฟนของตนเองอยู่ โดยเครื่องต้นแบบมีตั้งแต่ 5 ถึง 9 กล้อง และรองรับการถ่ายภาพสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซลในรายงานได้ระบุว่าตัวเครื่องจะมีความหนากว่า iPhone X เล็กน้อย มีเซ็นเซอร์พิเศษภายในตัว ช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยทำได้ดี รวมถึงช่วยในเรื่องของการถ่ายหนัดชัดหลังเบลออีกด้วย น่าสนใจทีเดียวว่า สมาร์ทโฟนจาก Light จะเปิดตัวเท่าไหร่ และมีราคาแรงขนาดไหนกล้อง Light L16 มีราคาอยู่ที่ $1,950 (ประมาณ 64,600 บาท) แม้จะมีราคาค่อนข้างโหด แต่หลายสำนักที่ได้ลองแล้วต่างก็บอกว่า มันทำงานได้ดีมาก แม้ว่าไฟล์ภาพ และความคมชัดจะยังเทียบ DSLR ไม่ได้ แต่ก็ดีกว่าสมาร์ทโฟนอยู่มากพอสมควร และเมื่อเราคิดถึงขนาดของมันที่เล็กนิดเดียว แต่มีเลนส์ถึง 16 ระยะ ทำให้มันมีข้อดีด้านการพกพาที่กล้องอื่นให้ไม่ได้

ที่มา:https://news.thaiware.com/13904.html

Google รุกหนัก จับมือกับ JD.com เพื่อเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ หวังขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน

ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Google บุกตลาดจีนอีกครั้งผ่านการเจรจาลงทุนต่างๆ และล่าสุดก็เป็นการเจรจาเพื่อเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับเว็บไซต์ JD.com เว็บไซต์ E-Commerce ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของจีนเป็นรองแค่ Alibaba เท่านั้น ด้วยมูลค่าการลงทุน 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อขยายฐานการลงทุนในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ซึ่งจากการประมาณการ คาดว่าคนในภูมิภาคนี้จะใช้จ่ายทางออนไลน์มากถึง 88,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2025 จากการเข้าถึงที่อินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น และการขายสินค้าทางเว็บไซต์

การเจรจาในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่เหมาะกับแต่ละบุคคลมากขึ้นสำหรับผู้ใช้งานทางออนไลน์หน้าใหม่และผู้ใช้งานในอนาคต สำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า Google จะได้รับหุ้นสามัญระดับ A ของ JD.com จำนวน 27.1 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่าร้อยละ 1 ของหุ้นทั้งหมดขณะเดียวกัน JD.com ก็จะนำสินค้าคุณภาพสูงกระจายไปสู่ส่วนต่างๆ ของโลกผ่าน Google Shopping ซึ่งรวมถึงตลาดในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป รวมถึงสินค้าจากผู้ค้าปลีกชาวจีนก็จะปรากฎผ่านผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องบน Google ด้วยGoogle ขยายกลุ่มสินค้าที่ให้บริการ Shopping อย่างรวดเร็ว

ที่มา:ข่าว

ดึงตัวข้ามค่าย! Apple ได้ตัววิศวกรรถไร้คนขับจาก Google มาพัฒนาโปรเจคฝั่งตัวเอง

  แม้ว่าเราอาจจะไม่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับโครงการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ "Titan" ของ Apple มากนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าโครงการนี้จะถูกพับไปแต่อย่างใด เมื่อล่าสุดเว็บไซต์ The Information รายงานว่า Apple ได้ดึงตัววิศวกรอาวุโสจากโครงการรถยนต์ไร้คนขับ "Waymo" ของฝั่ง Google มาทำงานด้วยแล้ว

การได้เขามาร่วมโครงการกับ Apple คาดกันว่าจะทำให้โครงการ Titan เดินหน้าได้รวดเร็วขึ้นและทำให้ Apple สามารถแซงหน้าผู้พัฒนาค่ายอื่นได้ และอาจนำไปสู่การมีรถยนต์ต้นแบบคันแรกตามมา

อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติหลายรายชี้ว่าโครงการนี้ถูกเลื่อนกำหนดการออกไป ซึ่งทำให้ Apple ยังตามหลังคู่แข่งอีกหลายราย และคู่แข่งเหล่านั้นก็ไม่ได้มอง Apple ในฐานะคู่แข่งที่มีศักยภาพด้วยทั้งนี้ เป็นความจริงที่ว่า Apple ได้เริ่มความพยายามในการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับมาหลายต่อหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมีทั้งที่เป็นรถจริงๆ ไปจนถึงการย่อส่วนโครงการให้เหลือเพียงการขายซอฟต์แวร์ของรถไร้คนขับให้แก่ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ เป็นต้น

ที่มา:ข่าว

ศูนย์การค้าในจีนทำช่องทางเดินพิเศษสำหรับคนติดมือถือ ให้เดินก้มหน้าเล่นได้อย่างสบายใจ

ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งในเมืองซีอาน มณฑลส่านซี ประเทศจีน ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทสตาร์ทอัพอยู่มากมาย ตัดสินใจทำช่องทางเดินพิเศษสำหรับคนที่ชอบเล่นมือถือขณะเดินอยู่บนทางเท้า หลังจากทางการอนุญาตให้ทำทางเดินดังกล่าวตรงทางเข้าศูนย์การค้าบนถนน Yan Da ได้

Shaanxi Online News สื่อท้องถิ่นได้รายงานว่า โฆษกของศูนย์การค้าดังกล่าว ซึ่งร้องเรียนขอทำช่องทางเดินพิเศษนี้มานานกว่า 1 เดือน ระบุว่า ชอบมีรถขึ้นมาบนฟุตบาทอยู่บ่อยๆ ทั้งที่มีคนเดินอยู่ขวักไขว่ 

ทางเดินหรือเลนดังกล่าวถูกทาด้วยสีแดง, น้ำเงิน และสีเขียว กว้าง 1 เมตร ยาว 100 เมตร  โดยมีสัญลักษณ์เป็นรูปโทรศัพท์มือถือ และมีข้อความเตือนคนเดินเท้าว่า "เฉพาะคนที่ติดสมาร์ทโฟนเท่านั้น" ขณะที่ส่วนอื่นๆ บนฟุตบาทก็ห้ามคนเดินเล่นมือถือด้วยเช่นกัน 

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกในประเทศจีนที่มีการทำช่องทางเดินพิเศษสำหรับสังคมก้มหน้า เพราะเมื่อปี 2014 เมืองฉงชิ่ง ก็เคยออกแบบ  "Text-walking lane" ทางเดินความยาว 30 เมตร สำหรับคนที่ใช้มือถือขณะที่เดินบนทางเท้ามาแล้ว 

ส่วนที่ประเทศอื่นๆ อย่างเมืองแอนต์เวิร์ป (Antwerp) ในเบลเยียมก็นำไอเดียคล้ายๆ กันนี้มาปรับใช้เช่นกัน ขณะที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ทำป้ายเตือนเป็นรูปคนมองโทรศัพท์ในมือขณะที่กำลังเดินอยู่ พร้อมข้อความว่า "เดินอย่างปลอดภัย"

ทั้งนี้ หลังจากมีทางเดินพิเศษที่ซีอาน ผู้ที่อาศัยอยู่ในย่านนั้นต่างมีความเห็นต่างกันไป บ้างก็ชื่นชมว่าการทำแบบนี้จะช่วยให้คนขับรถได้ระมัดระวังคนที่เดินเล่นมือถือ บ้างก็มองว่า เลนดังกล่าวทำให้คนรู้สึกว่าปลอดภัยมากขึ้น แต่ก็อาจจะส่งผลให้มีคนใช้มือถือขณะเดินกันมากขึ้น บ้างก็ไล่ให้พวกติดมือถือไปเดินบนทางคนตาบอด เพราะยังไงพวกนั้นก็ไม่เห็นสิ่งรอบตัวอยู่แล้ว

ที่มา:ข่าวไอที

โคตรล้ำ Project Precog โน๊ตบุ๊คแห่งอนาคตจาก ASUS หน้าจอคู่ พร้อม AI ช่วยในการทำงาน

   ช่วงนี้ที่ไต้หวันกำลังมีงานเทคโนโลยี "Computex 2018" อยู่ ก็จะเป็นงานที่ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์มักจะนำ "ของ" มาประชันกัน ASUS หนึ่งในผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ ได้เรียกเสียงฮือฮาด้วยการนำเสนอแนวคิดโน๊ตบุ๊ครูปแบบใหม่ที่มีชื่อว่า "Project Precog"

Project Precog เป็นโน๊ตบุ๊คที่ไม่มีแป้นคีย์บอร์ดแบบฟิสิกส์ มาพร้อมหน้าจอคู่ ซึ่งแนวคิดการออกแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เราน่าจะเคยเห็นภาพเรนเดอร์ของโน๊ตบุ๊ครูปแบบนี้กันมาบ้างแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เราเห็นเป็นของจริง แถมทาง ASUS ยังประกาศด้วยว่าต้องการที่จะวางจำหน่ายในปี 2019

หน้าจอด้านล่าง มีเทคโนโลยี Intelligent Touch ที่จะตรวจสอบรูปแบบงานที่เรากำลังทำให้อัตโนมัติ เพื่อเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลให้เหมาะสมกับงาน หากเราเรียกใช้งานคีย์บอร์ด ตำแหน่งแป้นคีย์บอร์ดจะปรับตำแหน่งให้ตรงกับพิกัดที่นิ้วของเราวางลงไปให้ด้วย หรือหากจะวาดรูปจอด้านล่างก็จะกลายเป็นผืนผ้าใบได้ทันที

Project Precog ยังทำงานแบบ AI ได้ด้วย โดยมันรองรับการทำงานร่วมกับ Windows Cortana, Amazon Alexa และ Intel Movidius ใครที่อยากได้ ก็ต้องอดใจรอไปถึงปี 2019 ถ้าให้เราเดา เราคิดว่าปัญหาตอนนี้ติดอยู่ตรงแบตเตอรี่นี่แหละ ดีแค่ไหน แต่ถ้าใช้งานได้แปปเดียว ใช้งานสองหน้าจอแบบนี้แบตเตอรี่ต้องหมดเร็วกว่าเดิมหลายเท่า อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าโน๊ตบุ๊คสไตล์นี้จะเป็นดีไซน์หลักในอนาคตอย่างแน่นอน เพียงแต่จะเมื่อไหร่ก็เท่านั้นเอง

ที่มา:ข่าวไอที

                                                          ที่มา : กระทรวงยุติธรรม